เมื่อออปติคอลดิสไดรว์ ของโน๊ตบุ๊ค มีปัญหา

เมื่อลืมแผ่นซีดี หรือ ดีวีดี ไว้ในเครื่องอ่าน หรือแม้กระทั่งออปติคอลดิสไดรว์ของโน๊ตบุ๊คมีปัญหา แต่ลืมแผ่นไว้ด้านใน  สามารถเอาแผ่นซีดีหรือดีวีดีออกมาได้ง่ายๆ โดยใช้คลิปสำหรับหนีบกระดาษแหย่ลงไปที่รู เล็กๆ ใกล้ๆ ปุ่มเปิดถาด ดังภาพถัดไป (สามารถใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะด้วย)

pr1

ภาพแรกยกตัวอย่างโน๊ตบุ๊คในรุ่นปัจจุบัน 2 ยี่ห้อ ซึ่งจะเห็นว่าหน้ากาก จะไม่เหมือนกัน แต่ด้านในของตัวออปติคอลดิสส์ไดรว์ จะเหมือนกันทุกประการและมาตรฐานปัจจุบันจะเป็นหัวเชื่อมต่อแบบ SATA ดังนั้นถ้าออปติคอลดิสไดรว์ของโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานทั่วไปในปัจจุบันมีปัญหา ใช้งานไม่ได้ เราสามารถเปลี่ยนได้เองโดยไม่ต้องซื้ออะไหล่จากศูนย์เฉพาะของยี่ห้อนั้นๆ

วิธีการให้หงายโน๊ตบุ๊ค และถอดน็อตเพียง 1 ตัวโดยสังเกตน็อตใกล้สัญลักษณ์ในวงกลมสีแดง ในภาพถัดไป

pr2

เมื่อถอดน็อตเสร็ตสามารถดึงตัวออปติคอลดิสไดรว์ออกมาได้ แต่ต้องถอดหน้ากากออกด้วย เพื่อที่จะเอาไว้ใส่ตัวใหม่ วิธีการถอดหน้ากาก ให้ใช้ไขควงปากแบนตัวเล็กๆ กดที่สลัก 2 ตัวในวงกลมสีแดงภาพถัดไป

pr3

เมื่อถอดออกมาแล้ว จะมีหน้าตาดังภาพถัดไป ซึ่งโน๊ตบุ๊คที่ใช้ทั่วไปทุกรุ่นทุกยี่ห้อจะเหมือนกันหมด สามารถหาซื้อได้จากร้านขายอะไหล่ทั่วๆ ไป ราคาปัจจุบันประมาณ 850 บาท ถ้าเกรงว่าจะสื่อสารกันไม่เข้าใจกับคนขายก็ถือตัวที่เสียไปด้วย แต่ถ้าคนขายถามว่าเอาไปเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คยี่ห้ออะไร ต้องไม่ตอบ โดยเฉพาะถ้าตอบว่ายี่ห้อ HP ท่านอาจจะได้ซื้ออะไหล่แพงกว่าปกติ (สาเหตุมาจากการซ่อมที่ศูนย์บริการจะค่อนข้างแพง) ทั้งๆ ที่เป็นชิ้นเดียวกัน ดังนั้นต้องตอบว่ายี่ห้ออะไรก็ได้ มันเหมือนกันหมด คนขายเขาจะไม่กล้าบวกราคากับเรา เพราะเราก็มีความรู้ …

pr4

อ่านเพิ่มเติม

ถึงเวลาให้ความใส่ใจเรื่องของพลังงาน

น้ำมัน  ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ  เหล่านี้ถูกมนุษย์ค้นพบและนำมาใช้ประโยชน์ให้ความเจริญก้าวหน้ากับอารยธรรมต่างๆ   หากแต่ความเจริญทางเทคโนโลยีและวัตถุเหล่านี้ได้แลกมาด้วยความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม    วันนี้พลังงานเหล่านี้กำลังหมดไป   แล้วเราจะทำอย่างไร?

ประเทศเยอรมนี และสเปนเป็นผู้นำในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์  ญี่ปุ่นเป็นต้นแบบแห่งรถยนต์พลังงานลูกผสม  เนเธอร์แลนด์ประสบความสำเร็จเรื่องพลังงานจากน้ำและลม  สวีเดนบุกเบิกเรื่องบ้านประหยัดพลังงาน  ฝรั่งเศสใช้พลังงานนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก ฯลฯ

ประเทศไทยถือเป็นประเทศกำลังพัฒนา มีการก่อสร้างอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้นมากมายตลอดเวลา สิ่งที่ตามมาคือความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เห็นได้จากความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปีพ.ศ. 2553 มากถึง 24,630 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึง 15.3 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่การผลิตไฟฟ้าได้จากเชื้อเพลิงฟอสซิลเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาตินั้นมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์และคาดว่าจะใช้ได้ถึงเพียงปีพ.ศ. 2575 เท่านั้น แม้ข้อมูลเหล่านี้จะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ในทางตรงกันข้ามกลับยังไม่มีการพยายามพัฒนาการใช้พลังงานทดแทนอย่างจริงจัง

แต่อย่างไรก็ตามยังมีการตระหนักถึงความสำคัญของการใช้พลังงานอย่างประหยัด และลดการใช้พลังงาน ตัวอย่างเช่น โครงการส่งเสริมการใช้หลอดแอลอีดี (LED) แทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตหลอดแอลอีดีสามารถพัฒนาให้ได้อัตราความสว่างสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้พลังงานไฟฟ้า ทำให้หลอดแอลอีดีประหยัดกว่าหลอดฟลูออร์เรสเซนต์มาก และราคาที่ลดลงมาก นอกจากนี้สามารถหาซื้อได้ง่ายตามแผนกขายอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้าทั่วไป

รู้อย่างนี้แล้ว เปลี่ยนหลอดไฟครั้งหน้าเลือกใช้หลอดแอลอีดีนะครับ แพงกว่าแต่คุ้มค่าระยะยาวครับ

แหล่งอ้างอิง :

http://www.ledonhome.com/

http://www.nst.or.th/article/article0138.htm

http://news.voicetv.co.th/global/65840.html

http://www.energysavingmedia.com/news/page.php?a=10&n=117&cno=4316

http://www.dae.mi.th/articles/hybrid-car.htm

http://www.ditp.go.th///attachments/article/doc/55/55002273.pdf

http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9490000089727

http://www.lekise.co.th/payback.php

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1369309269

การใช้ไฟฟ้าและการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย. สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน,

[Online]. [cited 2013 April 7] Available from:http://www.eppo.go.th/power/power2554.pdf

วีรากานต์ เก่งกาจ. เริ่มที่เราปฏิวัติพลังงาน พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร สำนักพิมพ์บริษัทออฟเซ็ท

ครีเอชั่น จำกัด.

คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด มีเสียงร้องติ๊ด ติ๊ด

เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไม่ได้  อาการคือไฟแสดงสถานะติดปกติ แต่ไม่มีภาพขึ้นหน้าจอ และมีเสียงร้องติ๊ด ติ๊ด สันนิษฐานได้ว่ามีปัญหาที่หน่วยความจำแรม (RAM) ถ้ายังอยู่ในระยะรับประกัน แนะนำให้ส่งกลับไปที่ร้านที่ได้ซื้อมา แต่ถ้าหมดระยะการรับประกันแล้วสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ดังนี้

1.พลิกด้านล่างขึ้นมาด้านบน ใช้ไขควงเปิดฝาที่มีสัญญลักษณ์ในวงกลมสีแดงตามภาพถัดไป

IMG_20130613_200934

2.เมื่อเปิดฝาออกจะเห็นแรม ถูกล็อคติดกับแผงเมนบอร์ดด้วยสลักด้านข้างทั้งสองด้าน ให้ใช้ไขควงผลักสลักออกไปด้านข้างทั้งสองด้าน

IMG_20130613_201010

3.แรมจะเด้งขึ้นมาเอียงๆ ดังภาพถัดไป ให้ระมัดระวังในการถอดออกไม่ควรจับบริเวณที่เป็นทองเหลือง

IMG_20130613_201040

4.เมื่อถอดออกมาแล้ว ให้ใช้ยางลบดินสอ ถูๆ บริเวณทองเหลือง (ระมัดระวังอย่าจับบริเวณทองเหลือง และขาไอซี ควรจับที่แผ่นวงจรพิมพ์ที่ขอบด้านข้างเท่านั้น)

IMG_20130613_201049

5.ทดลองใส่กลับไป โดยทำย้อนขั้นตอนการถอด คือต้องใส่เอียงๆ ก่อนที่จะกดเบาๆ ให้สลักล็อคทั้งสองด้าน ปกติสล็อตของแรมจะมีสองแถว ทดลองเปลี่ยนไปใส่อีกแถวก็ได้ ทดลองเปิดเครื่อง ถ้าเปิดได้ปกติก็เสร็จสิ้นกระบวนการ แต่ถ้าเปิดไม่ได้ สันนิษฐานว่าแรมเสีย สามารถซื้อจากร้านขายอะไหล่มาเปลี่ยนได้ โดยนำแรมตัวเดิมนี้ไปด้วย เนื่องจากแรมมีหลายรุ่น รุ่นปัจจุบันจะเป็น DDR3 แต่รุ่นก่อนหน้านี้ประมาณ 5 มีเป็นต้นไปจะเป็น DDR2 ซึ่งไม่สามารถใส่ทดแทนกันได้ ตัวอย่างแรมจากเครื่องที่นำมาเป็นตัวอย่างตามภาพถัดไปเป็นแรมชนิด DDR3 ขนาดความจุ 2 GB

IMG_20130613_201119

เชื้อเพลิงสาหร่าย นวัตกรรมพลังงานทดแทน

สาหร่าย (Algae) มองผิวเผินลักษณะคล้ายพืช แต่ไม่มีส่วนที่เป็นราก ลำต้น และไม่มีใบที่แท้จริง บางสายพันธุ์มีขนาดเล็กมากและมีเซลล์เดียว ในขณะที่บางสายพันธุ์มีขนาดใหญ่ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก และเป็นเส้นสายคล้ายพืชชั้นสูงก็มี การแบ่งจำพวกสาหร่ายแบ่งตามรูปร่างภายนอกหรือดูตามสี เช่น สาหร่ายสีเขียว เขียวแกมน้ำเงิน น้ำตาล และสีแดง สาหร่ายสืบพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศก็มี อาศัยเพศก็มี

gn2

 

จากการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ข้อสรุปว่า สาหร่ายเป็นพืชที่ผลิตน้ำมันได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาพืชทั้งหมดบนโลกนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์ที่สถานีทดลองพลังงานทดแทนแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NREL) ได้รวบรวมและเพาะเลี้ยงสาหร่ายไว้กว่า 300 สายพันธุ์ที่เจริญเติบโตโดยการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตน้ำมัน โครงการไบโอดีเซลจากสาหร่ายของ NREL สร้างบ่อเพาะเลี้ยงสาหร่ายไว้ในหลายพื้นที่รวมทั้งบริเวณใกล้ทะเลทรายในนิวเม็กซิโก และพบว่าสาหร่ายจะเจริญเติบโตเร็วมาก ประมาณน้ำหนักได้ 50 กรัมต่อตารางเมตร/วัน ดังนั้นในบ่อขนาด 1,000 ตารางเมตร จึงสามารถผลิตสาหร่ายได้ถึง 50,000 กรัม/วัน หรือ 50 กิโลกรัม/วัน

gn1

 

นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. ยุวดี พีรพรพิศาล จากห้องปฏิบัติการวิจัยสาหร่ายประยุกต์ สาขาวิชาจุลชีววิทยา ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าเซลล์ของสาหร่ายมีกรดไขมันค่อนข้างสูง โดยทั่วไปจะมีราว  20% แต่บางชนิด อาจมีถึง 60-70% ถ้าเลี้ยงเป็นปริมาณมากๆ แล้วนำมาผ่านกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่า เอสเทอริฟิเคชัน (Esterification) ก็จะได้ไบโอดีเซล ซึ่งใช้เป็นน้ำมันเชื้อเลิงเติมรถยนต์ได้เลย หรือใช้กระบวนการไพโรไลซิส (Pyrolysis) ซึ่งเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางเคมีโดยใช้ความร้อนในสภาวะไร้อากาศ ซึ่งในที่สุดก็จะได้น้ำมันก็ออกมาเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีกระบวนการอื่นๆ อีกหลายอย่างที่สามารถเปลี่ยนชีวมวลของสาหร่ายเป็นน้ำมันได้ โดยเฉลี่ยสาหร่ายสามารถสกัดไปเป็นน้ำมันได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่าในบ่อพื้นที่ 1,000 ตารางเมตรก็จะได้น้ำมัน 25 กิโลกรัม/วัน ใน 1 ปีก็จะสามารถผลิตน้ำมันได้ 9,125 กิโลกรัมหรือประมาณ 7,600 ลิตร  ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์การผลิตน้ำมันได้มากกว่าพืชชนิดอื่นๆ เช่น คาโนลา สบู่ดำ ยิ่งกว่านั้นนักวิจัยของ NREL ยังระบุว่าหากพัฒนาการเพาะเลี้ยงและการสกัดน้ำมันจากสาหร่าย แบบโรงงานขนาดใหญ่ ต้นทุนในการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจะมีเพียงลิตรละ 12 บาท เท่านั้น

อ้างอิง :

http://vcharkarn.com/varticle/38596

http://oilprice.com/Alternative-Energy/Biofuels/Innovative-Ways-of-Producing-Biofuel-Tobacco-Whiskey-and-Seaweed.html

http://www.xconomy.com/san-diego/2011/01/14/five-innovations-to-look-for-in-algae-biofuels/

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2

http://www.การเกษตร.com/สาหร่ายน้ำมันเชื้อเพลิ/

http://www.csri.or.th/new2012/index.php?option=com_k2&view=item&id=1821:เชื้อเพลิงสาหร่าย&Itemid=830

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9560000000334

http://biology.cru.in.th/biology/images%5Cpdf%5Cphyco%5Cphyco02.pdf

การซ่อมปุ่มคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊ค

ปุ่มคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คในปัจจุบันกลไกสำหรับการดีดตัวกลับเมื่อถูกกด ไม่ได้ใช้สปริงเหมือนคอมพิวเตอร์เมื่อสิบปีที่แล้ว แต่จะใช้ยางรูปถ้วยคว่ำอยู่ใต้แป้นสำหรับพิมพ์แทน ซึ่งยางนี้เมื่อกดไปบ่อยๆ จะสึกและจะทำให้กดแล้วไม่ค่อยติด ต้องกดหนักๆ หรืออีกสาเหตุที่พบบ่อยก็คือมดกัดกินยางดังกล่าว จนไม่สามารถใช้งานได้เช่นกัน ถ้าเปลี่ยนคีย์บอร์ดทั้งแผงจะมีราคาตั้งแต่แปดร้อยบาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของโน๊ตบุ๊ค และนอกจากนี้พบว่าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่ผลิตจากประเทศจีนจะมีโครงสร้างกลไกดังที่กล่าวมาเหมือนกันหมดทุกยี่ห้อ เพียงแต่ออกแบบให้มีความสวยงามแตกต่างกันเท่านั้น ดังนั้นถ้าปุ่มคีย์บอร์ดเสียด้วยอาการดังที่กล่าวมาเพียงหนึ่งหรือสองปุ่ม ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งแผง เราสามารถเปลี่ยนเฉพาะยางรูปถ้วยคว่ำได้ โดยเปลี่ยนสลับกับปุ่มที่ไม่ค่อยได้ใช้เช่น ปุ่ม Alt ฝั่งขวา หรือปุ่ม Ctrl ฝั่งขวา หรือปุ่มอื่นๆ ที่ยังไม่เสียและเราไม่ได้ใช้ก็ได้ วิธีการเปลี่ยนยางรูปถ้วยคว่ำไม่มีความยุ่งยากแต่ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานด้วยดังนี้

1.แกะแป้นพิมพ์ของปุ่มที่เสียออกโดยให้แกะจากมุมใดมุมหนึ่งก่อนดังภาพ โดยยกขึ้นมาเอียงๆ ห้ามยกตรงๆ เพราะจะทำให้ขาพลาสติกด้านล่างหลุดออกมาด้วย

รูปภาพ

2.เมื่อแกะแป้นสำหรับกดออกมาได้แล้ว ทดลองกดที่ยางด้วยปลายนิ้วหรือปลายปากกา ถ้าติดบ้างไม่ติดบ้าง แสดงว่ายางดังกล่าวมีปัญหา

รูปภาพ

3.ให้ใช้ปลายใบมีดตัดยางออก โดยค่อยๆ เลาะรอบๆ ให้หลุดออกมาทั้งชิ้น จากนั้นลองสังเกตุโดยการหงายยางรูปถ้วยดูตรงกลาง บริเวณที่ลูกศรชี้ในภาพถัดไปจะมีปุ่มเล็กๆ อยู่ แต่ถ้าไม่มีแสดงว่าอาจจะสึก หรือมดกัดแทะหายไป

รูปภาพ

4.ขั้นตอนต่อไป ให้แกะยางจากปุ่มที่ไม่เสียและเราไม่ได้ใช้ไปแทนที่ โดยการติดด้วยกาวยาง เช่น กาวตราช้างเป็นต้น แต่ให้ทากาวเฉพาะที่ขอบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

รูปภาพ

5.รอสักพักจนกาวแห้ง ก็สามารถใส่แป้นกลับไปได้ แต่ให้สังเกตุตามภาพถัดไปว่าจะต้องใส่ด้านที่วงกลมสีแดงก่อนเท่านั้น จากนั้นทดสอบกด ถ้าความนิ่มนวลใกล้เคียงปุ่มอื่นๆ ก็สามารถใช้ได้ และเสร็จกระบวนการ

รูปภาพ